admin

หนองใน เกิดขึ้นเองได้ไหม

หนองใน เกิดขึ้นเองได้ไหม

หนองใน เป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ถูกตรวจพบเป็นอันดับต้น ๆ ประมาณร้อยละ 40 ของโรคติดต่อที่มาจากกิจกรรมทางเพศทั้งหมด ที่จริงแล้ว สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศ ไม่จำกัดเฉพาะชาย หรือหญิง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงอายุตั้งแต่ 15 – 24 ปี หนองใน ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ การติดต่อของเชื้อนี้ ผู้นั้นจะต้องได้รับความเสี่ยงมา โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ถึงจะติดเชื้อได้ เราจึงเน้นย้ำถึงความสำคัญของ การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เพราะเราไม่รู้ว่าใครมีเชื้อโรคอะไรอยู่ในร่างกายหรือไม่ และ จะสามารถไว้ใจในคู่นอนของคุณได้แค่ไหน เมื่อพิจารณาจากประเด็นเหล่านี้ วันนี้ เรามาเรียนรู้ และเข้าใจเกี่ยวกับโรคหนองในเพิ่มเติมกันครับ หนองใน มีกี่ประเภท หนองในมีหลายประเภท โดยอาจแบ่งตามลักษณะของหนอง และสาเหตุที่เกิดขึ้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ปัจจัยไหนบ้าง? ที่เสี่ยงติดหนองใน ถ้าไม่อยากเป็นหนองในต้องป้องกันอย่างไร สวมถุงยางอนามัย ไม่ว่าจะเป็น คู่นอนประจำ แฟนของคุณ ทั้งการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก การออรัลเซ็กส์ ก็ควรสวมทุกครั้ง งดการใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพราะเราไม่รู้ว่าใครมีโรคติดต่ออะไรอยู่หรือไม่ ก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศและร่างกายให้เรียบร้อย หมั่นตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี … Read more

กามโรค อาการเป็นแบบไหน

กามโรค อาการเป็นแบบไหน

หลายคนสงสัยว่าถ้าหากติด กามโรค หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ขึ้นมาแล้ว จะมีอาการประมาณไหนที่จะชี้ชัดไปได้เลยว่าเป็นโรคจริงๆ กามโรค จริงๆ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็น โรคที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือการทำรักทางปาก (Oral Sex) ก็ตาม ส่วนใหญ่จะติดต่อผ่านการสัมผัสผิวหนัง บาดแผลที่มีเชื้อ เลือด หรือสารคัดหลั่ง ซึ่งในบางครั้งอาจถูกถ่ายทอดมาจากคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีเชื้อกามโรค และทำให้เชื้อถูกส่งต่อไปยังทารกน้อยได้ กามโรค มีอาการแบบไหนบ้าง คนที่ติดเชื้อกามโรค อาจพบอาการที่แตกต่างกันออกไป ตามแต่ชนิดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ได้รับเชื้อมา และมักจะพบรอยโรคบริเวณอวัยวะเพศ แล้วค่อยๆ ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายต่อไปหากไม่ได้ทำการรักษา ซึ่งบางรายอาจไม่มีอาการใดๆ ปรากฏให้เห็นเลย จึงเป็นการยากที่เจ้าตัวจะรู้ว่าติดเชื้อเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ อาการที่ถูกตรวจพบบ่อยๆ และสามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นกามโรค ได้แก่ ซึ่งหากพบว่ามีอาการ ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจหาเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาอย่างรวดเร็วและทำให้หายขาดจากโรคได้ง่าย สาเหตุที่ทำให้ติดกามโรค กามโรค เกิดจากเชื้อที่ติดต่อกันผ่านเซ็กส์ ได้แก่ เชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย เชื้อปรสิต นอกจากนี้ การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อโรคชนิดอื่นได้ เช่น โรคบิดจากเชื้อชิเกลล่า โรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไกอาร์เดีย เป็นต้น โดยปัจจัยเสี่ยงที่ถูกพบว่าทำให้ติดโรคได้มากที่สุด มีดังนี้ จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นกามโรคไหน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จำเป็นจะต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยจากการซักประวัติผู้ป่วยเบื้องต้น … Read more

ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ

ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Pelvic Inflammatory Disease : PID คือ การติดเชื้อที่ระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิง เช่น มดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ เยื่อบุช่องท้องในอุ้งเชิงกราน ซึ่งมีสาเหตุหลากหลายปัจจัยด้วยกัน แต่มักจะมาจากการมีเซ็กส์ที่ไม่ปลอดภัยเป็นส่วนใหญ่ เช่น โรคหนองในแท้ หรือหนองในเทียมที่บริเวณช่องคลอดและปากมดลูก และหากไม่ได้รับการรักษาจะก่อให้เกิดโรคลุกลามไปยังระบบอื่นๆ บริเวณอวัยวะเพศได้ จากสถิติจะพบในผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 18-25 ปีขึ้นไป อุ้งเชิงกราน คืออะไร อุ้งเชิงกราน คือส่วนบริเวณช่องท้องของร่างกายที่สามารถแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่อยู่เหนือกระดูกเชิงกรานขึ้นไป และส่วนที่อยู่ต่ำกว่ากระดูกเชิงกรานลงมา ส่วนที่อยู่ต่ำกว่านั้นเราเรียกว่า “อุ้งเชิงกราน” ถ้ามองจากภายนอกก็จะเป็นบริเวณท้องน้อยนั่นเอง สาเหตุที่ทำให้เกิด ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ อาการของ ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ อาการของภาวะนี้อาจจะยังไม่มีแสดงให้เห็นในช่วงแรกที่ติดเชื้อแล้ว แต่ถ้าหากมีการลุกลามของเชื้อแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้น ก็อาจมีอาการ ดังต่อไปนี้ การตรวจวินิจฉัย ภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ เมื่อคุณไปพบแพทย์เฉพาะทาง นอกจากการซักประวัติเบื้องต้นแล้ว แพทย์อาจเลือกใช้หลายวิธีในการตรวจประกอบกัน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบจริงๆ ได้แก่ ขั้นตอนการรักษาภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบ หากผู้ป่วยที่มีภาวะอุ้งเชิงกรานอักเสบยังมีอาการที่ไม่รุนแรง แพทย์จะใช้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ ชนิดรับประทาน แต่หากยาชนิดทานไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร … Read more

ซิฟิลิส Syphilis สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

ซิฟิลิส | สาเหตุ อาการ วิธีรักษา

การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) ยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลก หนึ่งในการติดเชื้อดังกล่าวคือ “ซิฟิลิส” การติดเชื้อจากแบคทีเรีย ซึ่งอาจมีผลร้ายหากไม่ได้รับการรักษาให้ถูกต้อง การทำความเข้าใจเกี่ยวกับซิฟิลิส รวมถึงสาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการรักษาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการป้องกันการแพร่เชื้อและการจัดการผลกระทบของมัน ในบทความนี้ เราจะศึกษาข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับซิฟิลิสเพื่อให้คุณได้รับภาพรวมอย่างละเอียด สาเหตุของ ซิฟิลิส ซิฟิลิส (Syphilis) เกิดจากแบคทีเรีย ทรีโปเนมาพาลลิดัม (Treponema pallidum) การติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด การมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หรือทางปาก เชื้อแบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางบาดแผลเล็กน้อยหรือแผลของเยื่อบุตาอื่น ๆ ทั้งนี้ ซิฟิลิสสามารถติดต่อผ่านทางแม่สู่ลูกระหว่างการตั้งครรภ์ หรือระหว่างการคลอดได้ การติดเชื้อกรณีนี้จะเรียกว่า ซิฟิลิสโดยกำเนิด อาการของ ซิฟิลิส ซิฟิลิสใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ ก่อนที่จะเริ่มมีแสดงอาการ โดยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ การวินิจฉัยของซิฟิลิส แพทย์จะซักประวัติผู้ป่วย อาการ ความผิดปกติที่เกิดขึ้นของผู้ป่วย ประวัติการเจ็บป่วย พฤติกรรมด้านเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการตรวจร่างกายในเบื้องต้น ซึ่งแพทย์จะตรวจดูบริเวณอวัยวะเพศหรือส่วนอื่นของร่างกาย ว่าพบแผลหรือความผิดปกติใด ๆ ที่อาจเกิดจากซิฟิลิส ก่อนจะสั่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ … Read more

ไวรัสตับอักเสบซี ไวรัสร้ายทำลายตับ

ไวรัสตับอักเสบซี (HCV) ไวรัสร้ายทำลายตับ

ไวรัสตับอักเสบซี เป็นปัญหาสุขภาพที่มีผู้ป่วยหลายล้านคนทั่วโลกถูกเชื้อไวรัสตับอักเสบซีนั้นเข้าทำลายตับ โรคนี้มักจะไม่แสดงอาการใด ๆ แต่อาจนำไปสู่ความเสียหายของตับ และอาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งในตับได้หากไม่ได้รับการรักษา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกความซับซ้อนของโรคไวรัสตับอักเสบซี โดยสำรวจสาเหตุ อาการ และทางเลือกการรักษาต่างๆ ไวรัสตับอักเสบซีคืออะไร ไวรัสตับอักเสบซีคือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสชนิด ซี  (HCV) ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีแบบเฉียบพลันเป็นภาวะเจ็บป่วยระยะสั้นที่เกิดขึ้นประมาณ 6 เดือน หลังจากที่ผู้นั้นสัมผัสเชื้อไวรัสตับอักเสบซีครั้งแรก โดยปกติการติดเชื้อแบบเฉียบพลันจะไม่กลายเป็นการติดเชื้อแบบเรื้อรังเสมอไป และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีชนิดเรื้อรัง เป็นภาวะเจ็บป่วยระยะยาวซึ่งเกิดขึ้นเมื่อยังคงมีเชื้อไวรัสอยู่ในร่างกายของผู้นั้น ภาวะการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซีสามารถคงอยู่ได้ตลอดชีวิต และนำไปสู่สภาวะที่เป็นอันตรายต่อตับรวมถึงภาวะตับแข็ง หรือมะเร็งตับในที่สุด ไวรัสตับอักเสบซี อาการเป็นอย่างไร? ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีจำนวนมากไม่มีอาการใด ๆ ในระยะเริ่มต้นของโรค อย่างไรก็ตาม บางคนอาจมีอาการดังต่อไปนี้ หากคุณมีอาการเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องรีบพบแพทย์ เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง ไวรัสตับอักเสบซีติดต่อได้อย่างไร อย่างไรก็ตามเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ไม่ติดต่อทางการรับประทานอาหารร่วมกัน การใช้จามชามช้อนส้อมด้วยกัน การให้นมบุตร การกอด หรือการจูบ ร่วมถึงไม่ติดต่อผ่านการสัมผัส หรือไอ จาม รดกัน ใครบ้างที่ควรตรวจ ไวรัสตับอักเสบซี การวินิจฉัยไวรัสตับอักเสบซี การป้องกันไวรัสตับอักเสบซี การรักษา ไวรัสตับอักเสบซี ในอดีต ไวรัสตับอักเสบซีเป็นโรคร้ายที่ยากจะรักษา แต่ปัจจุบัน … Read more

มูลนิธิเพื่อรัก และแอ็พคอม จับมือยกระดับสุขภาพดิจิทัลชุมชน

มูลนิธิเพื่อรัก และแอ็พคอม จับมือยกระดับสุขภาพดิจิทัลชุมชน

กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย – 15 มีนาคม 2567 (Love Foundation) มูลนิธิเพื่อรัก และแอ็พคอม (APCOM) ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อยกระดับสุขภาพดิจิทัลสำหรับชุมชน โดยมุ่งเน้นไปที่การเข้าถึงบริการด้านสุขภาพและข้อมูลสำหรับชุมชน LGBTQI+ และกลุ่มประชากรหลักอื่นๆ ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล Love2Test.org และtestBKK.org พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ จัดขึ้น ณ Stranger Bar ซอย 4 สีลม กรุงเทพมหานคร ในบรรยากาศที่อบอุ่นและสนุกสนาน เริ่มต้นด้วยการแสดงแดร็กโชว์สุดอลังการจาก คุณศรีมาลา Drag Race Thailand ต่อด้วยการเสวนา ในหัวข้อ “วิธีการใช้ข้อมูลเพื่อเสริมพลังให้กับชุมชน LGBTQI+ และประชากรกลุ่มหลัก” โดยผู้ร่วมสนทนาทั้ง 5 องค์กร ได้แก่ APCOM, สมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย, SWING, Hornet ประเทศไทย และ มูลนิธิเพื่อรัก ไฮไลท์สำคัญ ของงานคือพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจโดยตัวแทนจากทั้งสองมูลนิธิ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติจากกว่า 10 … Read more

เริมที่อวัยวะเพศ Genital Herpes

เริมที่อวัยวะเพศ | GENITAL HERPES

เริมที่อวัยวะเพศ (Genital herpes) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Herpes Simplex Virus สามารถติดต่อผ่านทางผิวหนังและทางเพศสัมพันธ์ ในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ บางรายอาจกลับมาเป็นซ้ำได้อีกครั้งเมื่อร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วย เครียด พักผ่อนน้อย ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ เริมที่อวัยวะเพศ อาการเป็นอย่างไร ? อาการของจะเริ่มจากการเกิดตุ่มพองขนาดเล็ก ที่อาจจะแตกออกเป็นแผลเปิดและก่อให้เกิดความเจ็บปวด แต่แผลจะตกสะเก็ดและหายไปภายในเวลา 2-3 สัปดาห์ ในเพศชายจะปรากฏอาการบริเวณอวัยวะเพศ ถุงอัณฑะ ส่วนในเพศหญิงจะปรากฏอาการบริเวณช่องคลอด ทวารหนัก นอกจากนี้ เริมที่อวัยวะเพศอาจส่งผลให้เกิดอาการอื่นๆได้ เช่น การวินิจฉัยเริมที่อวัยวะเพศ บางครั้งแพทย์ อาจวินิจฉัยโรคได้ง่ายจากการตรวจดูด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะในกรณีรอยโรคที่พบค่อนข้างชัดเจน แต่ในบางครั้งแพทย์อาจต้องทำการตรวจสืบค้นเพิ่มเติมโดยการ เก็บตัวอย่างจากรอยโรคที่พบและส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือการตรวจเลือดของผู้ที่สงสัยเพื่อตรวจหาภูมิคุ้มกันต้านทานต่อเชื้อเริม มักไม่เป็นที่นิยมใช้ในการช่วยวินิจฉัยโรค ทั้งนี้เนื่องจากผลการตรวจอาจไม่ชัดเจน แต่ในบางครั้งก็สามารถช่วยในการวินิจฉัยโรคสำหรับผู้ป่วยบางรายได้ การป้องกันเริมที่อวัยวะเพศ เราสามารถลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อ และการแพร่เชื้อไวรัสต้นเหตุของเริมที่อวัยวะเพศได้ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น การรักษา เริมที่อวัยวะเพศ ในปัจจุบันยังไม่ยาหรือวัคซีน ในการรักษาเริมให้หายขาดได้ ทำได้เพียงบรรเทาอาการ และลดโอกาสการแพร่เชื้อไวรัสสู่ผู้อื่น ซึ่งยาในการรักษาอาการนั้นต้องได้รับการสั่งยาจากแพทย์เท่านั้น โดยการใช้ยาต้านไวรัส เช่น ยาอะไซโคลเวียร์ (Acyclovir) ยาวาลาไซโคลเวียร์ (Valacyclovir) ซึ่งจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น … Read more

กรุงเทพ ตรวจเอชไอวี ได้ที่ไหนบ้าง

กรุงเทพ ตรวจเอชไอวี ได้ที่ไหนบ้าง ?

เอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus) เป็นไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ส่งผลให้ผู้ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และมีโอกาสป่วยเป็นโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เอชไอวี สามารถแพร่เชื้อได้ 3 ทางหลักๆ ได้แก่ ทางเพศสัมพันธ์ ทางเลือด และจากมารดาสู่ลูกระหว่างตั้งครรภ์ การคลอดบุตร หรือการให้นมบุตร การตรวจเอชไอวี เป็นวิธีเดียวที่จะรู้แน่ชัดว่าตนเองติดเชื้อหรือไม่ ในบทความนี้ จะกล่าวถึงในจังหวัด กรุงเทพ ตรวจเอชไอวี ได้ที่ไหนบ้าง ? ซึ่งมีให้บริการที่หลากหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลของเอกชน คลินิกนิรนาม และคลินิกเฉพาะทางต่างๆ การตรวจเอชไอวี คืออะไร ? การตรวจเอชไอวี (HIV TEST) คือ การตรวจหาการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี (HIV) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย การตรวจเอชไอวีมีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่อาจมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย มีพฤติกรรมเสี่ยงอื่นๆ เช่น การใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น มีประวัติสัมผัสเลือด หรือสารคัดหลั่งจากผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี การตรวจเอชไอวีในปัจจุบัน นิยมตรวจจากเลือด ซึ่งมีทั้งหมด 5 แบบ ได้แก่ … Read more

ยาต้านฉุกเฉิน-PEP

เป๊ป (PEP) ยาต้านฉุกเฉินเพื่อป้องกัน HIV

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่ามี “เป๊ป” หรือยาต้านฉุกเฉินอยู่บนโลกใบนี้เลยเสียด้วยซ้ำ หากคุณไม่เคยศึกษาหรือได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องเอชไอวี และโรคเอดส์มาก่อน ด้วยความที่สังคมในปัจจุบัน ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ง่าย รวมทั้งแอพพลิเคชั่นหาคู่ หาเพื่อน ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น ทั้งในกลุ่มเด็กวัยรุ่น วัยเรียน นักศึกษา วัยทำงาน ทำให้คนเรานัดเจอกันง่าย รู้จักกันง่าย อันเป็นเหตุให้เกิดความสัมพันธ์ได้ง่ายมากขึ้นเช่นกัน บางทีพบกัน ถูกใจ ก็อาจมีเพศสัมพันธ์กันได้โดยประมาท เพราะใครก็มีโอกาสพลาดกันได้ทั้งนั้น หากคุณไม่ป้องกันให้ดี คุณก็มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอชไอวีได้ทุกเมื่อ ทำความรู้จัก “เป๊ป” PEP (Post-Exposure Prophylaxis) “ยาเป๊ป” เรียกได้ว่าเป็น ยาต้านไวรัสเอชไอวี ที่แพทย์จะจ่ายให้กับผู้ที่มีความเสี่ยงหลังสัมผัสเชื้อมาแล้วไม่เกิน 72 ชั่วโมง ยาเป๊ป มีส่วนประกอบของตัวยาต้านไวรัสเอชไอวีประมาณ 3 ชนิด ที่ทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไม่ให้ขยายตัวเพิ่ม และไม่ให้กลายเป็นไวรัสที่สมบูรณ์ โดยกระบวนการนี้จะทำให้ระบบภูมิต้านทานโรคของร่างกาย สามารถสร้างเกราะมาป้องกันก่อนที่เชื้อจะแพร่จำนวนมากขึ้นจนทำอันตรายให้กับเราได้ เสี่ยงแบบไหน ? ถึงควรรับยาเป๊ป รับยาเป๊ป ได้ที่ไหน ? ประการแรก ก่อนการรับยาเป๊ป คุณจะต้องเข้ารับการตรวจเอชไอวีเสียก่อน เป็นการยืนยันผลว่าคุณไม่ได้มีเชื้ออยู่ก่อนแล้ว การทานยาต้านฉุกเฉินนี้จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ไม่สามารถหาซื้อทานได้เองตามร้านขายยาทั่วไป หรือทางออนไลน์ นอกจากนี้ คุณยังจะต้องเข้ารับการตรวจการทำงานของตับและไต … Read more

Categories PEP
ยาเป๊ป-PEP-ป้องกันเอชไอวี-หลังเสี่ยง

ยาเป๊ป (PEP) ป้องกันเอชไอวี หลังเสี่ยง

ยาเป๊ป (PEP) ย่อมาจาก Post-Exposure Prophylaxis เป็นยาต้านไวรัสที่ใช้ในการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกรณีฉุกเฉิน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมง หลังสัมผัสเชื้อหรือหลังมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อเอชไอวี และรับประทานต่อเนื่องติดต่อกันนาน 28 วัน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด เป๊ป (PEP) ใช้ในกรณีใด ? ยาเป๊ปสามารถใช้ได้ในกรณีต่อไปนี้ ประสิทธิภาพของ ยาเป๊ป (PEP) ยาเป๊ปมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีได้สูงถึง 80% หากรับประทานภายใน 72 ชั่วโมง หลังสัมผัสความเสี่ยง โดยยาเป๊ปจะทำงานโดยการยับยั้งการแบ่งตัวของเชื้อเอชไอวีในร่างกาย ทำให้เชื้อไม่สามารถเพิ่มจำนวน และแพร่กระจายไปยังเซลล์อื่นๆ ในร่างกายได้ ผลข้างเคียงของเป๊ป (PEP) ผลข้างเคียงของยาเป๊ปที่พบได้บ่อย ได้แก่ ขั้นตอนการรับ ยาเป๊ป ผู้เข้ารับยาเป๊ป จะต้องแจ้งความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีแก่แพทย์ จากนั้นแพทย์จะซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด ตรวจค่าตับค่าไต หากแพทย์พิจารณาว่าผู้เข้ารับยาเป๊ปมีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี จะจ่ายยาเป๊ปให้ โดยผู้เข้ารับยาเป๊ปจะต้องรับประทานยาต่อเนื่องติดต่อกันนาน 28 วัน หากรับประทานยาครบตามกำหนด ผู้เข้ารับยาเป๊ปควรพบแพทย์เพื่อตรวจติดตามผลการรักษาเป็นระยะ เพื่อประเมินประสิทธิภาพของยา รับยาเป๊ป ได้ที่ไหน ? ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อเอชไอวี … Read more

Categories PEP